หลายคนอาจจะเคยเห็น ‘ผำ’ ผักสีเขียวสดเม็ดเล็ก ละเอียด วางขายเป็นถุงหรือใส่กะละมังตั้งอยู่ในตลาดแถบภาคเหนือหรืออีสาน ก่อนหน้านี้มันเคยอยู่บนผิวน้ำตามหนองน้ำหรือบ่อน้ำ มองไกลๆ คล้ายกับจอกแหน แต่ถ้าเข้ามาดูใกล้ๆ จะเห็นว่า หน้าตาของมันดูคล้ายสาหร่ายหรือไข่ปลาจิ๋วๆ มากกว่า รสสัมผัสตอนเคี้ยวในปากก็กรุบๆ ใกล้เคียงกันเลย
ปัจจุบันเริ่มมีการเพาะเลี้ยงผำมากขึ้น เพราะแหล่งน้ำสะอาดหายาก เพราะน้ำมักจะปนเปื้อนสิ่งสกปรกจากภาคเกษตร ผู้เพาะผำจะทำบ่อใส่น้ำสะอาดที่นิ่งทิ้งไว้ เมื่อถึงเวลาที่ต้องการก็จะลงเก็บได้ทันที เจ้าของแต่ละคนก็จะทำตะแกรงที่ทำให้กรองได้ละเอียดมากที่สุดในเวลาสั้นๆ แล้วก็ต้องนำมากรองด้วยผ้าขาวบางแล้วบีบให้แห้งเช่นเดียวกัน ก่อนนำไปขาย
ถ้าจะกินผำต้องทำให้สุกก่อน เพราะผำสดมีสารพิษ หากกินเข้าไปทำให้รู้สึกเหมือนมีเข็มเล็กๆ หลายร้อยเล่มทิ่มทั่วปาก ลิ้น และคอ แต่เพียงแค่ผ่านความร้อนหรือทำให้มันแห้งเต็มที่ก็กินได้อย่างปลอดภัยแล้ว คนที่เป็นโรครูมาตอยด์ เกาต์ นิ่วในไต ควรหลีกเลี่ยง
สีเขียวสดของผำจะไม่เปลี่ยน แม้จะนำไปทำให้สุกแล้วก็ตาม รสชาติของผำ บางคนบอกว่ามันๆ จืดๆ ไม่มีลักษณะเด่นเฉพาะตัว บางคนบอกว่าคล้ายกับผักวอเตอร์เครส บางเสียงก็เปรียบว่าเหมือนกับกะหล่ำปลี แต่ที่ทำให้คนกินติดใจเห็นจะเป็นผิวสัมผัสของมันที่ถึงกับพูดว่า เป็นคาเวียร์ผักขม ส่วนคนไทยในภาคเหนือและอีสานนำผำมาปรุงหลายเมนู ทั้งยำ เจียวไข่ หรือคั่ว
คั่วผำหรือแกงไข่ผำ เริ่มต้นจากการเตรียมเครื่องแกงที่ประกอบด้วย พริกแห้ง หอมแดง ข่า ตะไคร้ เกลือ กะปิ ตำรวมกันไว้ ก่อนจะนำไปผัดกับน้ำมันจนหอม ในขั้นตอนนี้หากอยากใส่เนื้อหมูลงไปก็ได้ จากนั้นใส่ผำ ใบมะกรูด ตะไคร้ ข่า ลงไป ผัดจนสุกก็กินได้แล้ว แถบภาคอีสานนิยมใส่น้ำปลาร้าและน้ำปลาปรุงรสลงไปด้วย
หรือง่ายกว่านั้นก็คือ ไข่เจียวผำ ที่เพียงแค่ใส่ผำที่ล้างสะอาดและบีบให้แห้งแล้วลงไประหว่างที่ตีไข่เหมือนกับไข่ชะอมเท่านั้นเอง ผำช่วยเพิ่มรสสัมผัสกรุบๆ ลงไป

ว่าที่ ซูเปอร์ฟู้ดใหม่?
เห็นเล็กจิ๋วขนาดนี้ ผำอัดแน่นไปด้วยสารอาหารโดยเฉพาะโปรตีน จากการศึกษาของนักวิจัยในอินเดียและเยอรมนีที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ Food Chemistry เมื่อปี 2017 ระบุว่า ผำอุดมไปด้วยโปรตีนและกรดไขมันโอเมก้า 3 จนทำให้นักโภชนาการเริ่มมองว่า ผำอาจจะเป็นซูเปอร์ฟู้ด (superfood) ใหม่ของโลก จากการที่มันมีคุณค่าทางโภชนาการมากมาย นักวิจัยยังบอกด้วยว่า สามารถนำผำมาทำเป็นเครื่องดื่มปั่นหรือขนมอบแบบไร้กลูเตนได้ด้วย
นักวิจัย คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค้นพบว่าผำมีปริมาณโปรตีน 33.84 % ของน้ำหนักแห้ง มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ปรับสภาพร่างกายของคนที่เป็นกรดจากสภาวะเครียดให้เป็นด่าง และช่วยรักษาภาวะซีดในคนที่เป็นโรคโลหิตจาง สารอาหารในผำยังดึงดูดใจให้บริษัทสตาร์ทอัปอิสราเอลที่ชื่อ GreenOnyx เพาะผำ เพราะเห็นว่ามีสารอาหารเทียบเท่ากับบร็อคโคลี เคล และผักขม ผู้ก่อตั้งบริษัทตั้งใจว่าอยากให้ผำที่เขาเรียกว่า ‘ไข่น้ำ’ แพร่หลายกว้างขวางออกไปจากแค่ไทย ลาว หรือพม่า โดยการกระตุ้นให้คนเพาะผำด้วยเครื่องจากครัวของตัวเอง เครื่องนี้จะปรับสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเติบโตของผำ จำลองให้เหมือนกับแหล่งน้ำในประเทศไทย มีสารอาหารชนิดเดียวกัน ภายใต้อุณหภูมิเดียวกัน เครื่องนี้จะผลิตผำออกมาและทำน้ำสกัดเย็นได้ด้วย ด้วยความหวังว่า ผำจะเป็นทีนิยมได้เหมือนกับควินัวที่กลายเป็นอาหารสุขภาพที่ชาวตะวันตกคุ้นชินไปแล้ว
.
ที่มา: themomentum.co/local-alive-wolffia-globosa-advertorial/
.
ดูแลสุขภาพตัวเองดีๆ นะครับ แล้วเราจะผ่านไปด้วยกัน
.
Line@ : https://lin.ee/FFb7N35
.
#SmartLifeSmartHealth
#DrWellnessX
#WellnessWorld
#iMEDE
#WellnessSociety
#PhysicalWellness
#MentalWellness
#SpiritualWellness
#AmazingThailand
#ThailandLongevity
#SuezieYold
#สูงวัยExpert
.
แล้วพบกันครับ.